ถ้ามีคนหัวเราะเยาะ passion ของคุณ และตัวคุณเองก็กลัวว่าจะทำ passion ไม่สำเร็จ คุณจะทำอย่างไร
.
เราอยากให้คุณลองเก็บใบไม้ขายแบบคุณ Tomoji Yokoishi ผู้ก่อตั้ง Irodori Leaf Business เมือง Kamikatsu
.
การปลูกส้มเคยเป็นอาชีพหลักและความภาคภูมิใจของชาวบ้านจนกระทั่งเจอกับความหนาวเป็นประวัติการณ์ในเดือนกุมภาพันธ์ ปี 1981 กับอุณหภูมิ -12 องศา ต้นส้มตายหมด กว่าจะปลูกต้นส้มใหม่โตพอที่จะออกผลขายได้ก็ใช้เวลาหลายปี คนหนุ่มสาวจึงย้ายออกจากเมืองเกือบหมดเพื่อหางานทำในเมือง
.
ที่เหลืออยู่ก็มีแต่คนแก่ที่รู้สึกไร้คุณค่า ลูกหลานทิ้ง แล้วยังต้องรอรับเงินบริจาคจากรัฐบาล
.
และวิกฤตที่ Kamikatsu เจอก็เหมือนทุกวิกฤตที่เราเจอในชีวิต มันทำให้เรา “เก่งขึ้น”
.
คุณ Tomoji Yokoishi เจ้าหน้าที่สหกรณ์การเกษตรหาทางแก้เมืองที่ไร้ชีวิต จนวันหนึ่งเขาได้ไปงาน event ในร้านอาหารที่โอซาก้า Yokoishi สังเกตว่าคนที่มางานรู้สึกชอบและ ว้าว ไปกับกับใบไม้ที่อยู่บนจานข้าวมากกว่าอาหารบนจานซะอีก
.
ที่ญี่ปุ่นมีวัฒนธรรม ‘eat with your eyes first’ การตกแต่งจานอาหารด้วยใบไม้เพื่อบอกว่าตอนนี้คือช่วงเวลาไหนของปี เพราะแต่ะฤดูกาลใบไม้ก็จะไม่เหมือนกัน และเป็นดวงตาของ Yokoishi ที่เห็นโอกาสเพราะ Kamikatsu ใบไม้เยอะมากเนื่องจากเป็นเมืองที่อยู่ในเขา
.
“ไม่มีทางที่คุณจะทำเงินจากการเก็บใบไม้พวกนี้ได้หรอก !!!” Yokoishi ต้องเจอกับแรงต้านและคำปฏิเสธของคนทั้งเมือง เพราะทุกคนภาคภูมิใจและยึดติดกับศักดิ์ศรีของการเป็นเกษตรกรที่ลงมือปลูกและดูแลต้นส้มจนถึงขั้นตอนเก็บไปขายเป็นอย่างดี จะให้เดินเข้าป่าเด็ดใบไม้ขายมันไร้ค่า
.
Yokoishi ตอบคำดูแคลนของชาวบ้านด้วยการ “ลงมือ” เก็บใบไม้ขายตามลำพังให้ดูเป็นตัวอย่างควบคู่กับการพูดคุยกับชาวบ้าน จนชาวบ้านเริ่มทำตามเพราะใจอ่อนและสงสาร Yokoishi แต่ในที่สุดทุกคนก็เห็นคุณค่าในสิ่งที่ทำ ค่อยๆละเมียดละไมเก็บใบไม้ ปลูกต้นไม้ ดูแลต้นไม้ Yokoishi ตะลุยขายใบไม้ทั่วญี่ปุ่น ทั้งวันทั้งคืน ตอนกลางวันไปร้านอาหาร ตอนกลางคืนไปตลาดขายใบไม้ Kamikatsu กลายเป็นเมืองที่มีชีวิตชีวาอีกครั้ง ชาวบ้านมีรายได้และเห็นคุณค่าในตัวเองอีกครั้ง คนหนุ่มสาวทยอยกันกลับมาที่เมือง
.