มีลูกค้า “รัก” 100 คน ดีกว่ามีลูกค้า “ชอบ” 1,000,000 คน” ที่มาของ “We don’t do” Manifesto

“We don’t do” Manifesto หลักการในการรับงานของเรามีอยู่ 2 ข้อ

1: เราไม่รับงาน “greenwashing” “rainbow washing” “impact washing” 

2: เราไม่รับงาน CSR ที่ทำเพื่อถ่ายรูปเอาภาพข่าว แต่ไม่สามารถวัด Social Impact ได้

.

เราแปะไว้ในสไลด์หน้าแรกๆของ credential และมีลูกค้ารายนึงทักขึ้นมาว่า “สไลด์นี้มีไว้ไล่ลูกค้าใช่มั้ย” 

.

“พวกเราทำ greenwashing ไม่เป็น เราอยากให้ลูกค้าที่อยากทำ greenwashing ได้ร่วมงานกับ consult ที่พร้อมสนับสนุนเขาครับ” ผมตอบด้วยความรู้สึกอย่างนั้นจริงๆ

.

“Better to have 100 users love you than 1 million that kinda like you” Sam Altman ผู้ก่อตั้ง OpenAI ที่สร้าง ChatGPT เคยกล่าวไว้ และเราก็เห็นด้วยกับเขา เราไม่ได้ต้องการที่จะมีลูกค้าเยอะแยะมากมาย เราแค่อยากที่จะร่วมงานกับลูกค้าที่ “จริงจังเรื่องความยั่งยืน” เท่านั้น และทำให้เขาแบบเต็ม 100

.

“เราต้องทำมันจริงๆหรือ” เบนซ์กับปาล์มทักผม เมื่อสมัยยังทำที่ชูใจ มีคนขอร้องให้ผมทำแบรนด์และโฆษณาถั่งเช่า ผมอึดอัดใจที่จะปฏิเสธ แต่กลายเป็นว่าทำแล้วกลับรู้สึกอึดอัดยิ่งกว่า โชคดีที่สุดท้ายไม่มีงานออกมา ไม่งั้นคงเป็นตราบาปฝังในความทรงจำของเบนซ์ ปาล์มและผม บทเรียนถั่งเช่าทำให้เรามีหลักการในการเลือกงานที่ชัดเจน แต่มันก็ทำให้ผมกับเพื่อนทำงานไม่ลงตัวกันมากขึ้นเรื่อยๆ เพราะ “value” ไม่ตรงกัน เพื่อนอยากทำ ผมปฏิเสธ พอไม่ลงตัวบ่อยเข้า การพาตัวเองออกมาทำตาม value ของเราจึงเป็นทางออก

.

เส้นทางของการปฏิเสธสิ่งที่ไม่ใช่ตัวเรา กลับทำให้เรารู้จักตัวเราเองชัดมากขึ้นเรื่อยๆ

.

“ยอมเจ๊ง ดีกว่าทำเรื่องยั่งยืนแบบฉาบฉวย” น้องขนุนจาก the matter เขียนพาดหัวบทสัมภาษณ์ของพวกเรา ถ้าบริษัทนึงทำลายสิ่งแวดล้อม หรือเอาเปรียบคนตัวเล็ก สร้างความเหลื่อมล้ำ โดยที่เขาไม่คิดจะเปลี่ยนแปลงหรือแก้ปัญหาที่เกิดขึ้น คิดว่าการสร้างแบรนด์ให้คนรักคือทางออก นั่นคือ “greenwashing” และ “impact washing” และถ้าเราสร้างแบรนด์ที่ washing นั่นก็เหมือนเราร่วมทำลายโลกและรังแกคนตัวเล็กไปพร้อมกับเขา

.

Sustainability เมื่อทำถูกต้องจะ win ทุกฝ่ายทั้งธุรกิจ สิ่งแวดล้อมและสังคม

.

“Great Power comes with Great Responsibility” สิ่งที่ทำให้คนรักแบรนด์ไม่ใช่การ “เอาแต่พูด” แต่ “ลงมือทำ” หากธุรกิจที่เราทำสร้างปัญหาให้กับสิ่งแวดล้อมและคน เราจะรอให้คนอื่นโจมตีเราหรือเราจะแก้ด้วยตัวเราเอง มีเคสบริษัทยักษ์ใหญ่ในโลกมากมายอย่าง apple microsoft plantoy ben&jerry’s amazon ที่เขาเลือกที่จะแก้ปัญหาแทนที่จะทำ branding หรือ PR หลอกๆ กลับกลายเป็นว่าค่าใช้จ่ายเขาลดลง margin เพิ่มขึ้น ธุรกิจของเขาแกร่งขึ้น รวมทั้งคนรักแบรนด์เขามากขึ้น เราสนุกกับการช่วยแบรนด์ที่รับผิดชอบต่อสังคมด้วยการลงมือทำ ให้เขาประสบความสำเร็จทั้ง economy planet และ people

.

ส่วนแบรนด์ที่ทำ washing จบไม่สวยซักราย

.

เราอยากมีลูกค้า “รัก” เรา 100 คนดีกว่ามีลูกค้า “ชอบ” เรา 1,000,000 คน การที่เราปฏิเสธลูกค้าที่อยากทำ greenwashing ทำให้เราทุ่มเวลา resource และ energy รวมทั้ง passion ทั้งหมดให้กับลูกค้าที่ตั้งใจจะทำเรื่องยั่งยืนอย่างจริงจัง 

.

เราคิดว่าวิธีนี้จะทำให้ลูกค้าที่อยากสร้างการเปลี่ยนแปลง “รัก” เราได้

Scroll to Top