หากคุณเป็นคนรักธรรมชาติ อาชีพนี้อาจจะเป็นอาชีพในฝันของคุณ เพราะคุณสร้างธุรกิจจากการ “สร้างธรรมชาติ”
และนั่นเป็นสิ่งที่ Kris Tompkins ทำหลังจากที่เธอลาออกจากการเป็น CEO ของ Patagonia สู่การเป็นนักอนุรักษ์ธรรมชาติและสัตว์ป่าอย่างเต็มตัว
Tompkins เป็น CEO ของ Patagonia เป็นเวลา 20 ปีก่อนจะลาออกในปี 1993 ย้ายไปอยู่ที่ชิลีกับ Doug Tompkins ที่เป็น co-founder North Face และ Esprit ทั้งคู่แต่งงานกันก่อนจะตั้งองค์กรไม่แสวงหากำไร Tompkins Conservation เลือกซื้อที่ดินที่ชิลีและอาร์เจนตินา เพื่อสร้างอุทยานแห่งชาติและปกป้องสัตว์ป่าที่ใกล้สูญพันธุ์
“ทุนนิยมกับการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม เวอร์คร่วมกันได้”
จนถึงวันนี้ Tompkins Conservation สนับสนุนเงินกว่า 350 ล้านดอลลาร์ เพื่อสร้างอุทยานแห่งชาติ 15 แห่ง ซึ่งรวมถึงอุทยานสัตว์น้ำ 2 แห่ง คิดเป็นพื้นที่ 15 ล้านเอเคอร์บนผืนดินและ 30 ล้านเอเคอร์ในมหาสมุทร
ในปี 2017 องค์กรได้บริจาคที่ดินให้กับชิลี 1 ล้านเอเคอร์ โดยมีข้อตกลงกับรัฐบาลชิลีจะต้องสนับสนุนที่ดิน 9 ล้านเอเคอร์เพื่อสร้างอุทยานแห่งชาติแห่งใหม่
“เปลี่ยนแปลงโดยไม่ทำลาย”
ระหว่างทางทั้งคู่ต้องเจอแรงต้านจากธุรกิจเหมืองแร่และธุรกิจประมงในชิลีและอาร์เจนตินา เธอทั้งคู่ก็ผ่านมาได้โดยใช้หลักการเปลี่ยนแปลงธุรกิจโดยไม่ทำลายธุรกิจ “ฉันไม่คิดว่าจะมีใครที่มีสิทธิ์เดินเข้าไปในพื้นที่ แล้วบอกให้โรงงานพวกนี้ออกไปซะเพราะเราจะปกป้องสัตว์ป่า” แต่เราต้องมองให้เห็นความเป็น “ชุมชน” ที่อยู่ในพื้นที่นั้นว่าจะช่วยกันจัดการเรื่องนี้ได้อย่างไร และจะได้ประโยชน์ร่วมกันได้อย่างไร
“การอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมต้องวัดผลได้จริง”
เราต้องสามารถวัดผลหรือ quantify ทุกสิ่งที่เราทำได้เพราะมันเป็นสิ่งใหม่และชุมชนอาจจะรู้สึกว่าเราเข้าไปคุกคามหรือพยายามจะเปลี่ยนแปลงเขา การจะสร้างอุทยานขึ้นมาได้ 1 อุทยานต้องใช้คนหลายร้อยคน เพราะฉะนั้นมันจะสร้างงานต่อเนื่องเป็นเวลา 10-20 ปี จากนั้นรัฐบาลก็จะมีการจ้างคนอีกเพื่อบริหารงานของอุทยาน และจะมีธุรกิจท่องเที่ยวเกิดขึ้นซึ่งก็จะเป็นธุรกิจของคนในชุมชน
“ทำให้ภาครัฐเห็นการ connect”
เราทำงานกับประธานาธิบดี 11 คนในชิลีและอาร์เจนตินาในรอบหลายปีที่ผ่านมา สิ่งสำคัญก็คือเราต้องทำให้รัฐบาลเข้าใจว่าโปรเจคต่างๆจะสร้างประโยชน์ให้กับ ระดับประเทศ ระดับภูมิภาค และระดับท้องถิ่นได้อย่างไร มันถูกจับแยกส่วนมาตลอดทั้งที่จริงๆแล้วมัน connect กัน
WWF คาดการณ์ว่าการเปลี่ยนผ่านสู่ “nature-positive economy” จะสามารถสร้างธุรกิจรวมมูลค่ากว่า $10.1 trillion ต่อปี และสร้างงาน 395 ล้านตำแหน่งภายในปี 2030
ใครที่สนใจงานด้านนี้ เตรียม upskill หรือ reskill กันนะครับ ส่วนคนที่ทำงานที่สร้างผลกระทบด้านลบกับ planet และ people ก็น่าจะเตรียม upskill หรือ reskill เหมือนกันเพราะมันจะถูก disruption ไปทีละธุรกิจ
SDGs Goal :Climate Action, Life on Land
Writer : ยอด Co-founder, Goodwill Compounding
Souce : WWF และ Wall Street Journal
Photo Credit : Mowgil Adventure