ปีนี้ทั้งร้อนสุดๆและร้อนนานเลยใช่ไหมครับ ไม่ใช่แค่ประเทศไทยแต่โดนกันทั้งโลก อุณหภูมิโลกร้อนจนทำสถิติใหม่ในเดือนมิถุนายนและกรกฎาคม
โดยในวันที่ 7 กรกฎาคม อุณหภูมิเฉลี่ยของทั้งโลกขึ้นไปถึง 63 ดีกรีฟาเรนไฮต์ ทำลายสถิติเดิม 62.9 ดีกรีฟาเรนไฮต์ ที่เกิดขึ้นวันก่อนหน้า 4 และวันที่ 5 กรกฎาคม ข้อมูลดังกล่าวรวบรวมโดย the National Oceanic and Atmospheric Administration และ the University of Maine.
ส่วนเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา ก็เป็นเดือนมิถุนายนที่ร้อนที่สุดในประวัติศาสตร์ ด้วยอุณหภูมิเฉลี่ยสูงถึง 61.7 ดีกรีฟาเรนไฮต์ วัดโดย the Copernicus Climate Change Service ซึ่งอยู่ภายใต้องค์กร the European Centre for Medium-Range Weather Forecasts
นักวิทยาศาสตร์ภูมิอากาศของ the Copernicus weather service ได้กล่าวว่า สาเหตุที่อุณหภูมิร้อน สร้างสถิติใหม่นี้เป็นผลจากการปลดปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์ในภาคอุตสาหกรรมและก๊าซเรือนกระจกอื่นๆที่สะสมอยู่ในชั้นบรรยากาศเป็นเวลาหลายสิบปี ผนวกกับปรากฏการณ์เอลนีโญในคาบสมุทรแปซิฟิก
ความร้อนดังกล่าวได้ปกคลุมไปทั่วทุกมุมของโลก ตั้งแต่ยุโรปตอนเหนือที่มีอุณหภูมิร้อนจนเป็นสถิติใหม่ ไปจนถึงทวีปแอนตาร์กติกที่ทำสถิติมีแผ่นน้ำแข็งต่ำสุด ส่วนในรัฐเท็กซัสประเทศอเมริกาก็มีทั้งคนป่วยหลายร้อยคนและคนตายนับสิบโดยมีสาเหตุจากความร้อน และยังเผชิญกับภัยน้ำท่วม ลูกเห็บและทอร์นาโด กระหน่ำซ้ำเติม
นักวิทยาศาสตร์มหาสมุทรกังวลว่า อุณหภูมิมหาสมุทรที่ร้อนขึ้นนี้จะสร้างผลกระทบกับชีวิตสัตว์ในท้องทะเลในระยะยาว โดยจะเปลี่ยนรูปแบบการอพยพของปลาและสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม เพิ่มความเป็นกรดในทะเล ทำลายประการัง ป่าชายเลนและพื้นที่ชุ่มน้ำที่คอยปกป้องชุมชนชายฝั่งจากพายุและระดับน้ำทะเลที่ขึ้นสูง
อ่านถึงบรรทัดนี้แล้ว เราจะทำอะไรที่ช่วยลดปัญหาโลกร้อนกันดีครับ
Title : สถิติใหม่ของอุณหภูมิโลก
Sustainable Development Goals (SDGs) :
Writer : ยอด Co-Founder, Goodwill Compounding
Source : CNBC
Wall Street Journal
เครดิตภาพ : An infographic on global heat waves fueled by climate change, created in Ankara, Turkiye on July 4, 2023. Yasin Demirci / Anadolu Agency via Getty Images