คุณคิดว่าเป็นไปได้ไหมครับ ถ้าคุณจะเปิดร้านขายไอติมด้วยเงินทุน $14,000 และนอกจากขายไอติมแล้ว คุณยังทำเรื่อง sustainability อย่างจริงจังจนมันเป็นเนื้อเดียวกับธุรกิจ
แล้ววันหนึ่งยูนิลีเวอร์ขอซื้อธุรกิจของคุณ $326 million
คุณอาจจะคิดว่ามันเป็นไปไม่ได้
แต่มันเป็นไปแล้วสำหรับ Ben & Jerry’s
เกิดอะไรขึ้น
- ก่อตั้งโดย Ben Cohen และ Jerry Greenfield ในปี 1978 ที่ vermont โดยขายไอติมซุปเปอร์พรีเมี่ยม ที่เริ่มเป็นกระแสในช่วงเวลานั้น
- แรกเริ่มทดลองขายทั้งไอติม เครปและซุป ปรากฏว่ามีไอติมตัวเดียวที่ไปรอด ทั้งคู่เลยโฟกัสที่ไอติมอย่างเดียว
- Greenfield จะเป็นคนทำไอติม ส่วน Cohen จะเป็นคนชิม แต่เพราะ Cohen สูญเสียประสาทสำหรับรับกลิ่น เขาจะรับรู้รสชาติ ของไอติมก็ผ่านการลิ้มรส texture ของเนื้อไอติมเท่านั้น ทำให้ Greenfield ต้องอัดเนื้อ ไอติมและเครื่องแน่นๆ Cohen ถึงจะรับรู้รสได้ เกิดเป็นจุดขายหลักของ ben and jerry’s “big chunk of ice cream”
- ด้วยรสชาติไอติมที่โดดเด่นไม่เหมือนใคร ใช้วัตถุดิบคุณภาพดีเท่านั้น และรสชาติที่แปลกแหวกแนว ทำให้ ben and jerry’s เป็นที่นิยม
- ในขณะที่คู่แข่งหลักอย่าง Häagen-Dazs สร้าง image ที่ดูหรูหรา ben and jerry’s สร้างภาพลักษณ์ที่ตรงกันข้าม simple, down to earth
- ปี 2000 ben & jerry’s ขายธุรกิจให้กับ unilever ด้วยราคา $326 million โดยมีข้อแม้ว่า บริษัทจะบริหารงานเป็นอิสระจาก unilever มีอำนาจในการตัดสินใจเอง
แล้วเรื่อง sustainability หล่ะ เขาทำอะไรบ้าง
- ใช้นม ไข่ และครีมจากฟาร์มของเกษตรกรรายย่อย เพื่อสนับสนุนให้คนตัวเล็กๆมีรายได้ แถมเกษตรกรที่ ben and jerry’s ยังเป็นเกษตรกรที่ทำการเกษตรเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม
- ไฟฟ้าในโรงงานได้มาจากการนำ ขยะในโรงงานและขยะจากฟาร์มเป็น renewable energy
- บราวนี่ ที่ใช้ในการทำไอติมรส half baked มาจากร้าน Greystone Bakery ในนิวยอร์ค ที่จ้างอดีตนักโทษ ที่กลับตัวแล้วแต่หางานทำไม่ได้ มาเป็นพนักงาน และซื้อวัตถุดิบจาก Rhino Foods ที่จ้างผู้อพยพมาเป็นพนักงาน
- ไอติมทุกรสชาติได้ Fair Trade Certified เพราะ ben and jerry’s รับซื้อวนิลา โกโก้ และเมล็ดกาแฟ จากเกษตรกร โดยให้ราคา fair price และสนับสนุน human rights labor standard
- ตั้งเป้าหมายสร้าง packaging ที่ 100% free of petroleum-based plastic และ ทุกองค์ประกอบของ Packaging จะต้อง นำกลับมาใช้ซ้ำได้ หรือ ย่อยสลายได้ หรือ รีไซเคิลได้ภายในปี 2025
- ออกรสชาติ limited edition เป็นระยะๆ เพื่อสร้างความ “ใหม่”ให้กับแบรนด์แล้วยังนำรายได้ส่วนหนึ่งไปบริจาคให้กับ NGO แถมยังทำโฆษณาเพื่อช่วยโปรโมท social cause นั้นๆ
- ยึดมั่นใน supplier diversity โดยเพิ่มจำนวน supplier ที่มีคนผิวดำเป็นเจ้าของ พร้อมทั้งเพิ่มยอดซื้อ อย่างต่อเนื่องทุกปี
- และยังมีกิจกรรมอีกหลากหลายที่สนับสนุน community ที่แบรนด์เข้าไปทำธุรกิจด้วย
ถอดบทเรียนความสำเร็จ
- คุณภาพของ Product : ไม่ว่าเราจะเป็นองค์กรที่ sustainable แค่ไหน ก็ยากมากที่จะประสบความสำเร็จถ้า product เราไม่ดี หรือเราเอาแต่ทำโฆษณาสร้าง Image เปลือกๆ Ben & Jerry’s ทุ่มเทให้กับคุณภาพของสินค้าอย่างมาก ใช้เฉพาะ Premium Ingredients รวมทั้งพยายามหารสชาติที่ unique และ innovative การทุ่มเทให้กับคุณภาพของสินค้านี้แหละสร้าง customer loyalty ให้กับสินค้า
- จริงจังกับเรื่อง sustainability Ben & Jerry’s ไม่ได้ทำเรื่อง sustainability เพื่อหลอกขายของเหมือนพวก greenwashing หรือ rainbowwashing brand แต่เขาจริงจังกับมัน ไม่ว่าจะเป็นเรื่อง โลกร้อน ความเท่าเทียมทางเพศและสีผิว หรือช่วยเหลือคนด้อยโอกาสและคนชายขอบให้สามารถพึ่งพาตัวเองได้ ทำให้ consumer ซื้อ Ben & Jerry’s เพราะ share value เดียวกัน จน มีลูกค้าจำนวนไม่น้อยของ Ben & Jerry’s ที่เรียกตัวเองเป็น”casual activist”
- สื่อสารเรื่อง sustainability ให้เป็นเรื่องสนุกที่ได้ช่วยโลก ไม่ประท้วงดุเดือดเหมือน hard-core NGO มันเลย popular กับคนหมู่มาก
- Passion ของ founders ที่จริงจังกับความยั่งยืนจนแทบจะเรียกว่าเป็น activists ก็ว่าได้และสร้าง culture ขององค์กรที่แข็งแกร่ง จนพนักงานทุกคนของ Ben & Jerry’s อินกับเรื่องนี้เช่นกัน สิ่งนี้เป็นสิ่งสำคัญที่ทำให้ความยั่งยืนสามารถทำได้ต่อเนื่องในระยะยาว เพราะทั้งผู้บริหารและพนักงานจริงจังกับมัน ไม่เหมือนกับหลายๆแบรนด์ที่ทำๆเลิกๆ ทำเพราะอยากขายของหลอกๆ
- snowball effect แบรนด์ ben and jerry’s เป็นเคสของแบรนด์ที่สร้าง sustainability ได้น่าสนใจ เริ่มต้นจาก 1 ไป 2 ไป 3 จนวันหนึ่ง sustainability ก็ไปแทรกเกือบทุกจุดของ value chain
- sustainability ที่ดี ไม่เพียงทำให้คนชอบแบรนด์ แต่ยังช่วยลดต้นทุน และสร้าง moat ให้ธุรกิจจนคู่แข่ง Copy ได้ยาก
- มีหลายครั้งที่แบรนด์ถูกโจมตีเพราะไปสนับสนุนประเด็นสังคม อย่างเช่น ออกมาต่อต้านไม่เห็นด้วยกับประธานาธิบดีไบเดนในการส่งทหารไปยูเครน แต่แบรนด์ก็ยังคงมุ่งมั่นที่จะเคลื่อนไหวต่อไป เพราะเขาเชื่อและทำตาม core value ของแบรนด์
ขนาดธุรกิจไอติมยังทำ sustainability ได้ขนาดนี้ ธุรกิจของคุณก็ทำได้ อย่าให้น้อยหน้านะครับ
Title: Ben & Jerry’s
Sustainable Development Goals : Climate Action, No Poverty, Gender Equality
writer : ยอด Co-Founder, Goodwill Compounding
source :
Time Magazine
Wall Street Journal
https://www.benjerry.com/